Sygmalift Hifu เลเซอร์ยกกระชับล่าสุดของนวัตกรรม Hifu ซี่ง Hifu เป็นชื่อระดับพลังงานย่อมาจาก High Intensity Focused Ultrasound เทคโนโลยีจากประเทศฝรั่งเศสรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ส่งพลังงานลงลึกใต้ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการเกิดใหม่ของคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้น รวมถึงรูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย ซึ่ง Hifu เองจะมีหลายยี่ห้อ ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ Hifu ควรเลือกเครื่องที่ให้พลังงานลงลึกเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีในการยกกระชับใบหน้า บทความนี้จะมาเจาะลึก Hifu แต่ละแบบกันค่ะ
หัวข้อเกี่ยวกับการเลเซอร์ยกกระชับผิวหน้า Sygmalift Hifu ที่ควรรู้และทำความเข้าใจก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถเลือกอ่านได้เลยค่ะ
Sygmalift Hifu แตกต่างจาก Hifu ธรรมดายังไง?
Hifu เป็นชื่อพลังงานที่ใช้ในการยกกระชับซึ่งถูกพัฒนาออกมาหลายยี่ห้อ ทั้งจากฝั่งยุโรป หรือฝั่งเอเชีย ซึ่งมีหลายเครื่องมากๆ โดยมากกว่า 90% ในท้องตลาดมาจากฝั่งเอเชีย ซึ่งในการทำไฮฟู่ควรเลือกเครื่องที่ได้มาตรฐาน USFDA มาตรฐานจากอเมริกา จะมีความปลอดภัยและพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งตัว Sygmalift Hifu เป็นเทคโนโลยีขั้นสุดของบรรดา Hifu ทั้งหมด ดังนั้นหากจะเลือกทำ Hifu ต้องเลือกเทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุด นั่นคือ Sygmalift Hifu นำเข้าจากฝรั่งเศสมาตรฐาน USFDA ความแตกต่างระหว่าง Sygmalift Hifu VS Hifu ธรรมดา มีดังนี้
- Sygmalift จะปล่อยคลื่นพลังงาน Fractional Beam โดยพลังงานจะลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มีคอลลาเจนมากที่สุดเกี่ยวข้องกับความกระชับของผิวโดยตรง ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี
- ไม่มีความเจ็บขณะทำ หากเทียบกับการทำ Hifu ธรรมดา
- เหนือกว่า Hifu ธรรมดาด้วยการผสานนวัตกรรมทั้ง 3 ประเภทในการทำเพียงหนึ่งครั้งคือ Hifu กระตุ้นคอลลาเจน, Tri ยกกระชับผิวรอบดวงตา+โหนกแก้มโดยเฉพาะและ Cold Laser กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทำให้หน้ากระจ่างใสทันทีหลังการทำเพียงครั้งแรก
Ulthera VS Thermage VS Hifu ธรรมดา VS Sygmalift Hifu เลือกทำแบบไหนดี? เหมาะกับใคร?
- Thermage เหมาะสำหรับการลดชั้นไขมันกรอบหน้า เหมาะกับคนไข้ที่มีชั้นไขมันที่หนาและทนเจ็บได้
- Ulthera เหมาะสำหรับริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยมากๆ อยู่ได้นานหลักปี แต่ราคาสูงและเจ็บขณะทำ หากต้องการให้ผิวยกกระชับจะต้องใช้พลังงานสูง ซึ่งคนไข้จะทนไม่ไหวต้องลดระดับพลังงานลงก็จะเห็นผลไม่ชัด ราคาสูง แต่หากทนเจ็บไหวก็คุ้มที่จะทำค่ะ
- Hifu ธรรมดา พลังงานต่ำ ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ ราคาไม่แพงและอยู่ได้ไม่นาน มักเห็นเป็นโปรโมชั้นบุฟเฟต์เหมาหน้าไม่จำกัดช็อตซึ่งอาจเห็นผลได้บ้างหากทำซ้ำบ่อยๆ
- Sygmalift Hifu ขั้นสุดของ Hifu มีความรู้สึกอุ่นๆระหว่างทำ ลงลึกถึงชั้น SMAS กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้แก้มยกกระชับ กรอบหน้าเรียวและผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย ถือเป็นตัวที่คุ้มค่าที่สุด ราคาปานกลาง และเห็นลัพธ์ชัดเจน
เจาะลึกจุดเด่นของเครื่อง Sygmalift Hifu
- จุดเด่นที่เหนือกว่า Hifu ทั่วไปคือการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวร่วมกับการเร่งผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวกระจ่างใสหลังการทำเพียงครั้งแรก
- ขั้นสุดของ Hifu ธรรมดา โดยปกติแล้ว Hifu ธรรมดาจะไม่สามารถสลายไขมันบริเวณกรอบหน้าได้ แต่เครื่อง Sygmalift Hifu มีเทคโนโลยี Fat remodeling ช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณกรอบหน้าและใต้คางได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่คนไข้มีปริมาณไขมันกรอบหน้าเยอะ คุณหมออาจแนะนำให้สลายเหนียงร่วมด้วยค่ะ
- Individualized Facial Designสามารถเลือกปรับโหมดได้หลายหัวและหลายพลังงานเพื่อเหมาะสมกับการปรับรูปหน้าในเคสนั้นๆ
Sygmalift Hifu รุ่น New Generation ที่เป็นขั้นสุดของตระกูล Hifu ปล่อยพลังงานคลื่นเสียงสูงถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที แต่คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำเลย ซึ่งต่างจาก HIFU รุ่นอื่นๆ ที่จะรู้สึกเจ็บขณะทำ - เครื่องSygmalift Hifu จะผสานเทคโนโลยี 3 เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน High Intensity Focused Ultrasound โหมด Dual Mode ลงลึกถึงใต้ชั้นผิว โดยคนไข้อาจมีความรู้สึกร้อนๆและผิวแดงหลังทำเสร็จ แต่ไม่เจ็บเหมือนเลเซอร์กระชับรุ่นอื่นๆแน่นอน
- เทคโนโลยี Low Level Laser Therapy (LLLT) โหมดเพิ่ม Oxygen ให้แก่เซลล์ผิว ผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการเกิดผิวใหม่รวมถึงกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนใต้ผิวด้วย ได้ทั้งกรอบหน้ายกกระชับและผิวกระจ่างใสรูขุมขนกระชับในครั้งเดียวที่ทำ
- เทคโนโลยี Gold Based Ceramic Transducer แหล่งกำเนิดคลื่นเสียงผลิตจากทองคำ รักษาความเสถียรของพลังงานสามารถลงลึกถึงใต้ชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ
- ไม่ต้องแปะยาชาก่อนการทำและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังการทำ
Sygmalift Hifu ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องใดบ้าง
- แก้ไขปัญหากรอบหน้าไม่เท่ากันเนื่องจากแก้มหย่อนคล้อน สาเหตุจากวัยและปัญหาคอลลาเจนใต้ผิว
- แก้ไขปัญหาคางสองชั้น เหนียง ให้กระชับขึ้น
- แก้ไขปัญหาหน้าบาน หน้ามีแก้ม ไม่เรียว
- แก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกให้กระชับ แก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็กๆ
- แก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำไม่สดใส
บริเวณใดบ้างที่สามารถทำ Sygmalift Hifu ได้
Sygmalift เป็นนวัตกรรม ยกกระชับด้วยพลังสูง สามารถแก้ไขผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และริ้วรอยอื่นๆบนใบหน้าด้วย เช่น ปัญหาคิ้วตก คิ้วไม่เท่ากัน ริ้วรอยใต้ตา ที่สำคัญสามารถยกกระชับกรอบหน้า ทำให้หน้าเรียวชัดขึ้นทันทีในครั้งแรกที่ทำ
Sygmalift Hifu อันตรายมั้ย? เจ็บมั้ย? ความรู้สึกระหว่างทำเป็นยังไง?
Sygmalift Hifu ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอน รวมถึงไม่มีอันตรายหรือความเสี่ยงใดๆหลังการทำ หากได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ
ความรู้สึกระหว่างรับการรักษา ผู้เข้ารับบริการจะไม่รู้สึกร้อน หรือ อาจจะอุ่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะ ทำด้วย Dual Mode
ความรู้สึกหลังรับการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกตึง ๆ ที่ผิวในบริเวณที่ทำการรักษาและอาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งปรกติใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน หากนานกว่านั้นมักไม่เกิน 7 วัน ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีบาดแผลหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น
4 ผลลัพธ์ที่จะได้รับหลังการทำ Sygmalift Hifu (4 effects in a single treatment)
- Lifting ยกกระชับผิวกรอบหน้า เหนียง แก้มให้ตึงกระชับทั้งในชั้นลึก และชั้นตื้น
- Fat reduction ลดการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณกรอบหน้า และ ใต้คาง
- Resurfacing ช่วยลดริ้วรอยที่ผิวหนัง และ รูขุมขน เรียบเนียนมากขึ้น
- Brightening ช่วยให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสมากขึ้น
ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
หลังการทำเพียงครั้งแรกจะเห็นผลลัพธ์ทันที 20% รู้สึกได้เลยว่ากรอบหน้ากระชับขึ้น เพื่อให้ผลเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุดควรทำซ้ำอีกครั้งเมื่อครบ 2-3 เดือนโดยทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยทุกครั้งที่ทำจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นผลลัพธ์จะคงอยู่ได้อย่างน้อย 6-12 เดือนสามารถกลับมาทำซ้ำได้เพื่อคงสภาพผลลัพธ์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนร่วมกับการผลัดเซลล์ผิวอยู่เสมอ ทำให้ผิวอ่อนเยาว์เรียบเนียนนั่นเองค่ะ
สำหรับ Sygmalift จะเห็นผลได้ชัดที่สุดในเคสคนไข้ที่ผิวไม่กระชับและไม่มีไขมันหน้าหนา แม้ตัวเครื่องจะมีโหมดสลายไขมันส่วนเกินแต่จะสลายได้ไม่ดีเท่าเทอร์มาจ(การทำเทอร์มาจเจ็บมาก)สำหรับคนไข้ที่มีชั้นไขมันหนาคุณหมอาจแนะนำให้พิจารณาการสลายไขมันด้วย Fat Dissolve ร่วมด้วย เ ดังนั้น ผลลัพธ์ในแต่ละเคสจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ผลลัพธ์หลังทำ Sygmalift Hifu อยู่ได้นานแค่ไหน?
การทำไฮฟู่ ไม่ใช่การผ่าตัด ผลลัพธ์จะไม่ถาวร คนไข้จำเป็นต้องทำซ้ำต่อเนื่องเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ หลังการทำครั้งแรกแนะนำให้มายิงซ้ำเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว โดยสามารถมาทำได้เลยทุก 2-3 เดือนต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ครั้ง หลังจากนั้นสามารถทิ้งช่วงนานได้ถึง 10-12 เดือนเลยทีเดียว เพราะ Sygmalift Hifu กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี เมื่อคอลลาเจนใต้ผิวแข็งแรงผิวหน้าเราจะยกกระชับไม่หย่อนคล้อยนั่นเอง หลังจากนั้นค่อยมาทำซ้ำเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ทุกๆ 10-12 เดือนแล้วแต่เคสค่ะ
แชร์ความประทับใจคนไข้ที่ใช้บริการ Sygmalift Hifu ที่กังนัมคลินิก
รีวิวยกกระชับหน้าด้วย Sygmalift Hifu
** ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล (หมายเหตุ: ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปได้แล้วแต่บุคคล)